ทำไมนกกระยางจึงเสียงแหบ

ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีนกกระยางเจ้าเล่ห์ตัวหนึ่ง ซึ่งเดิมที่มันมีเสียงร้องเพราะจับใจดังเสียงนกการเวกนกกระยางตัวนี้อาศัยอยู่ใกล้บึงขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง ที่มีกุ้งหอยปูปลาชุกชุมมาก
แต่เนื่องจากปีนี้ฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล จึงทำให้น้ำในบึงเริ่มแห้งลดน้อยลงไปทุกทีบรรดากุ้งหอยปูปลาทั้งหลายต่างก็เป็นทุกใจ เพราะเกรงว่าพวกตนจะต้องตายในไม่ช้าอย่างแน่นอน
นกกระยางเจ้าเล่ห์ได้โอกาสเหมาะ จึงบินลงไปในหนองน้ำ แล้วพูดกับบรรดากุ้งหอยปูปลาเหล่านั้นว่า
“นี่พวกเจ้าทั้งหลาย ถ้าขืนพวกเจ้าอยู่ในบึงนี้ต่อไปพวกเจ้าจะต้องตายแน่ๆ เพราะฝนไม่ตกลงมา น้ำในบึงก็จะแห้งหมด”
“ ท่านนกกระยางจะให้พวกเราทำอย่างไรดีเล่า ช่วยแนะนำพวกเราที่เถอะ เพราะพวกเราปัญญาน้อย คิดอะไรไม่ออกจริงๆ” หัวหน้าปลาขอร้อง
“อ๋อ เรื่องนี้ง่ายนิดเดียว ข้าจะช่วยบอกเจ้าไว้เอาบุญโดยข้าจะคาบพวกเจ้าไปที่ละตัวจนหมดบึงนี้ ไปอยุ่ในบึงแห่งใหม่ พวกเจ้าจะว่าอย่างไร จะตกลงให้ข้าช่วยเจ้ามั้ย” นกกระยางเสนอความคิด
“ เดี๋ยวพวกเราประชุมปรึกษาหารือกันดูก่อน ว่าจะตกลงหรือไม่ตกลงรับความปราถนาดีของท่าน” หัวหน้าปลาตอบ
ในที่สุดกุ้งหอยปูปลาทั้งหลายต่างตกลงยินดีรับความช่วยเหลือของนกกระยาง โดยหัวหน้าปลาได้พูดกับนกกระยางว่า
“พวกเราตกลงรับความช่วยเหลือจากท่าน แต่ขอร้องให้ท่านคาบพวกเราไปอยู่ในบึงที่มีน้ำมากและใสสะอาดก็แล้วกัน”
“ไม่มีปัญหา เราจะเลือกบึงใหญ่ที่มีน้ำใสสะอาดให้พวกท่านอยู่อย่างสุขสบายเลยพวกท่านไม่ต้องเป็นห่วงหรอก” นกกระยางรับคำ
“ งั้นรีบคาบเราไปก่อนเลยก็แล้วกัน เพื่อเราจะได้ไปสำรวจดูบึงก่อนว่าเป็นอย่างไร” หัวหน้าปลาพูดแล้วกระโดดขึ้นมาบนฝั่ง
นกกระยางเห็นดังนั้นจึงคาบหัวหน้าปลาไปทันที เมื่อคาบไปแล้วก็บินไปยังโพรงต้นยางต้นหนึ่ง แล้วก็จิกหัวหน้าปลาเป็นอาหารอย่างอิ่มหนำสำราญ
พอรุ่งขึ้นอีกวันหนึ่ง นกกระยางก็ไปร้องบอกปลาตัวต่อไปว่า
“ เจ้าปลาทั้งหลาย บัดนี้เราได้นำหัวหน้าของเจ้าไปอยู่ในบึงใหญ่ ซึ่งมีน้ำใสสะอาดอย่างสุขสบายแล้วท่านให้เรามารับพวกเจ้าไปอีก ใครต้องการให้เราคาบเป็นตัวต่อไปขอให้รีบกระโดดขึ้นมาบนฝั่งได้เลย เราจะได้คาบไปอยู่ในบึงต่อไป”
ปลาทั้งหลายเมื่อได้ยินนกกระยางพูดดังนั้นก็เชื่อพราะต่างก็กลัวตาย และจะได้มีชีวิตรอดอยู่ต่อไป จึงแย่งกระโดดขึ้นบนฝั่ง ให้นกกระยางเลือกคาบตามความพอใจ
นกกระยางเมือคาบปลาไปแล้ว ก็บินตรงไปยังโพรงต้นยางเช่นเคย แล้วจัดการจิกปลาเป็นอาหารเช่นเคย
นกกระยางทำอยู่อย่างนี้ทุกวัน จนปลาในบึงหมดลงนกกระยางก็ใช้วิธีการเดิมไปหลอกกุ้งและหอยกินจนหมดบึงเช่นเคย ยังมีเหลือก็แต่เพียงปูเท่านั้น นกกระยางจึงบินไปที่บึงเหมือนเคยแล้วพูดกับหัวหน้าปูว่า
“ ท่านหัวหน้าปู เราได้นำปลา กุ้ง หอย ในบึงนี้ทั้งหมดไปอยุ่ในบึงแห่งใหม่ที่มีน้ำใสสะอาดและอยู่กันอย่างสุขสบายดี พวกท่านจะยอมตายอยู่ในบึงนี้หรือ”
ปูนั้นมีความคิดรอบคอบและไม่ค่อยไว้ใจนกกระยางอยู่แล้ว จึงตอบนกกระยางไปว่า
“ ท่านนกกระยางผู้ใจดี เรานั้นก็อยากไปอยู่ในบึงแห่งใหม่เหมือนกัน แต่ว่าเรานั้นมีกรัดองแข็ง และตัวเราก็หนัก ท่านคาบเราไปนานๆ ท่านอาจจะเมื่อยทิ้งเราตกลงไปก็ได้ เราขอใช้ก้ามหนีบคอท่านไปจะได้ไหม”
นกกระยางไม่ทันคิด จึงเอ่ยปากตกลงแก่ปูตามที่ขอ
“ ตกลงแต่เจ้าอย่าบีบแรง นะ เดี๋ยวเราหายใจไม่ออก” นกกระยางพูด แล้วก็ก้มลงให้ปูใช้ก้ามหนีบคอ
แล้วนกกระยางก็พาปูบินตรงไปยังโพรงต้นยางใหญ่เหมือนเคย เพื่อหวังจะกินปูเป็นอาหาร
เมื่อถึงโพรงต้นยางใหญ่ ปูก็เหลือบเห็นซากสัตว์ต่างๆ เช่น ก้างปลา เปลือก กุ้งและหอย อยู่ในโพรงและบริเวณใต้ต้นยางใหญ่เป็นจำนวนมาก ปูได้รู้ทันทีว่าเจ้านกกระยางได้นำสัตว์ทั้งหลายในบึงมากินที่ต้นยางนี้อย่างแน่นอน
ปูแกล้งถามเจ้านกกระยางไปว่า “ เจ้านกกระยาง เจ้าจะพาเราไปที่ไหนกันแน่ ทำไมถึงพาเรามาบนต้นยางใหญ่นี้”
“ ข้าจะพาเจ้าไปที่บึงใหญ่นั่นแหละ แต่ว่าบึงอยู่ไกล จึงพาเจ้ามาที่โพรงต้นยางใหญ่นี้ก่อน” นกกระยางแกล้งตอบ
“ งั้นที่เห็นเกลื่อนกลาดอยู่ในโพรงและใต้ต้นยางใหญ่นี้มันซากอะไร มาจากไหน” ปูซักถามต่อ
“ข้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นซากของอะไรเพราะข้าก็เพิ่งมาถึงพร้อมกับเจ้านั่นแหละ” นกกระยางตอบอย่างเสียไม่ได้
“เจ้าอย่ามาโกหกเราเลยเจ้าได้หลอกพวกเรามากินบนต้นยางนี้ใช่ไหมข้ารู้ทันเจ้าหรอก เจ้ารับมาเสียดีๆมิฉะนั้นคอของเจ้าจะขาด” ว่าแล้วปูก็ใช้ก้ามอันยาวใหญ่ของมันหนีบคอนกกระยางจนสุดแรง
“โอ๊ย เจ็บ ข้าหายใจไม่ออกแล้ว ข้าจะตายแล้ว “ นกกระยางร้องเสียงหลง
“เจ้าก็กลัวตายเหมือนกันรึ เราคิดว่าเจ้าไม่กลัวตายเสียอีก เจ้ายอมรับหรือยัง
“ ข้ายอมรับแล้วว่าข้าพาพวกเจ้ามากินบนต้นยางนี้จริงๆ ข้าผิดไปแล้ว เจ้าช่วยคลายก้ามของเจ้าออกจากคอข้าหน่อยซิ” นกกระยางขอร้อง
“ได้ แต่ว่าเจ้าจะต้องพาเราไปส่งยังบึงใหญ่ที่มีน้ำใสสะอาดเดี๋ยวนี้ มิฉะนั้นคอของเจ้าจะต้องขาดอย่างแน่นอน” ปูพูดสำทับพร้อมใช้ก้ามหนีบคอนกกระยางอีก
“โอ๊ย อย่าทำข้าเลย ข้ายอมแล้ว ข้าจะพาเจ้าไปยังบึงใหญ่เดี๋ยวนี้แหละ” พูดแล้วนกกระยางก็รีบบินไปยังบึงใหญ่ที่มีน้ำใสสะอาดทันที
แล้วปูก็คลายก้ามที่หนีบคอนกกระยางออกจนตัวปูหลุดร่วงลงไปในบึงอย่างปลอดภัย
ส่วนนกกระยางเจ้าเล่ห์ก็ถูกปูหนีบคอจนเสียงแตกเสียงร้องที่เคยดังกังวานไพเราะ ก็แตกพร่าและแหบตั้งแต่นั้นมาจนถึงทุกวันนี้
หมายเหตุ ในนิทานเรื่องนี้นักเรียนจะเห็นว่า ปูนั้นเป็นสัตว์ที่มีความช่างสังเกต จึงสามารถเอาตัวรอดจากอันตราย ที่จะเกิดขึ้นกับตนเองได้

Veradet.com
Logo
กระท้อนลอยแก้ว| ชุดชั้นกุลสตรี| ชุดชั้นในวาโก้
Shopping cart